วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

เที่ยวปาย


ปาย...อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย ความเงียบสงบ ลำน้ำปายสายน้อยที่ไหลเอื่อยผ่านกระต๊อบเล็ก ๆ อันเป็นที่พำนักของนักท่องเที่ยว ภูเขาที่ใหญ่น้อยที่โอบล้อมอำเภอปาย เป็นสเน่ห์ที่ประทับใจนักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้เลือน ในฤดูฝน ริมลำน้ำปายจะดารดาษไปด้วยทุ่งนาข้าวเขียวขจี และเมื่อย่างเข้าฤดูหนาว ทุ่งนาข้าวก็จะแปรเปลี่ยนเป็นไร่กระเทียมที่ทอดตัวยาวไปจรดเชิงเขา ท่ามกลางสายหมอกเย็นระรื่น เมื่อราตรีมาเยี่ยมเยือน ถนนก็เริ่มครึกครื้น
ร้านขายโปสการ์ด hand-made เปิดไฟสีนวลให้ร้านยิ่งน่ารักชวนมอง ชาวดอยต่าง ๆ ก็ปูผ้ากันริมถนนขายสินค้าพื้นเมือง ทั้งย่ามทอมือ ผ้าปักหลากสี เสียงเพลง Ginger Tea แว่วดังขึ้น ชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ก็เข้ามารุมล้อมรถเข็นขายน้ำขิงในกระบอกไม้ไผ่ และรับฟังเพลงน่ารัก ๆ จากปากแม่ค้า ทุกอย่างนี้ล้วนแต่งแต้มสีสันเมืองปายในยามราตรีให้ดูสดใสทุกค่ำคืน แหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งในอ.ปาย ไม่ว่าจะเป็น วัดน้ำฮู, วัดพระธาตุแม่เย็น, น้ำตกหมอแปง,สะพานประวัติศาสตร์ ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งสิ้น ซึ่งทำให้เมืองปายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในใจของผู้มาเยือนเสมอมา ปายเมื่อวันวาน ปาย ... ปี 2539 ทริปนั้นเราเข้ามาเมืองปาย อย่างคนไม่ตั้งใจ จากทริปพิเศษที่ผมพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยว ทุ่งดอกบัวตอง แม่ฮ่องสอน และแผนของเราคืนนั้นคือ ไปนอนที่อุทยาน ฯ ห้วยน้ำดัง แต่เราก็โต๋เต๋กันเพลินจนเดินทางมาถึงปายซะดึก ก็เลยต้องมาค้างที่ ปาย อย่างช่วยไม่ได้ สำหรับคนไทยในตอนนั้น ปายเป็นเพียงแค่เมืองผ่านที่ไม่มีใครรู้จัก กระทั่งไกด์อย่างผมที่เดินทางมาแม่ฮ่องสอนปีละหลาย ๆ ครั้ง ยังรู้จักแค่ร้านอาหารชื่อ สิรินทร์ญา ซึ่งบริษัททัวร์เกือบทั้งหมดตอนนั้น ใช้ทานอาหารเที่ยงเมื่อต้องพาลูกค้ามายังแม่ฮ่องสอน แล้วก็มีร้าน "น้องเบียร์" ที่ "พี่ทม" หัวหน้ากลุ่มรถตู้ระดับบิ๊กในตอนนั้น แนะนำให้รู้จักว่า เป็นร้าน "ข้าวซอย" ที่อร่อยเริ่ดประเสริฐศรีที่สุดในอำเภอปาย ทีเหลือก็เป็นข้อมูลที่ผมจำได้คร่าว ๆ จากหนังสือ อสท. ว่า ที่ "เมืองปาย" แห่งนี้ มีบริการล่องแพยางจากปาย ไปถึงที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วก็มีทัวร์เดินป่าเที่ยวชม 5 หมู่บ้านชาวเขา
ชาวฝรั่งเศสเป็นคนบุกเบิก บลา ๆ ๆ ..... ความรู้สึกของผม ก็ไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวอื่น ๆ ในวันนั้นว่า "ปาย" มันก็แค่ทางผ่าน .... แต่สำหรับ"ฝรั่งซำเหมา" แล้ว ปายเปรียบเหมือนดั่งแดนสวรรค์ ที่มีครบทุกสิ่ง ธรรมชาติอันพิสุทธิ์ อากาศเย็นสบายที่แสนจะสดชื่น และบรรยากาศสบาย ๆ แบบ ปาย ปาย .... เพียงก้าวแรกที่ผมย่างลงไปในอำเภอเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า "ปาย" นั้น ผมจึงรู้สึกเหมือนกับว่า เรากำลังหลงอยู่ในประเทศอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่ ประเทศไทย ร้านเหล้าและบาร์เล็ก ๆ เต็มไปด้วยฝรั่งซำเหมา หัวดำที่เห็นมีเพียง พนักงานเสิร์ฟกับเจ้าของร้าน เช่นเดียวกันกับ เกสต์เฮ้าส์เล็ก ๆ ราคาไม่เกิน 200 บาท ที่กระจายรายรอบเมืองเล็ก ๆ ที่ชื่อว่าปายแห่งนี้ ร้านอาหารข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ หรือแม้กระทั่งร้านอาหารตามสั่ง มีแต่เมนูภาษาอังกฤษเท่านั้น .... ที่ตอกย้ำความรู้สึกคือ ก่อนกลับเข้าที่พัก ผมพาเพื่อน ๆ ไปกินโรตีหน้าตลาดเช้ากัน มันก็เป็นรถเช็นเล็ก ๆ ขายโรตี 30 ไส้ อย่างที่เคยเห็นกันเป็นประจำ เพื่อนผมเดินไปซื้อก่อนจะกลับมาบอกให้ผมช่วยสั่งให้หน่อย ผมก็งง ๆ ก่อนจะถึงบางอ้อ เมื่อได้คุยกับอาบังกับก๊ะห์ และรู้ว่าท้งสองคนพูดภาษาไทยไม่ได้ "English Only" ผมจึงสรุปได้ว่า คนที่จะมาเที่ยวปายต้องพูดภาษาอังกฤษได้ ในระดับ Meduim ถึง Well-done เท่านั้น กลับจากทริปนั้น "ปาย" เป็นเมืองที่คาใจผมมาก ๆ กับความรู้เดิม ๆ ว่า สถานที่ไหนเป็นที่รู้จักในกลุ่มฝรั่งแบ็คแพค อนาคตจะถูกพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้ผมเริ่มสงสัยว่า อนาคต เมืองปายแห่งนี้ จะเป็นอย่างไร ... และยิ่งมั่นใจว่าอีกไม่นาน เมืองปาย จะไม่ใช่แค่ทางผ่านอีกต่อไปแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น